ปากกาเขียน Calligraphy ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ มีคลิป

ถ้าคุณเป็นคนที่อยากฝึกเขียน Calligraphy แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไง สิ่งแรกที่ควรทำคือ หาปากกา brush pen ดีๆ มา 2-3 ด้าม แล้วก็ฝึกเขียน หรือถ้าอยากได้ความ classic ขึ้นไปอีก ก็ต้องใช้ปากกาจุ่มหมึก (ที่บางคนเรียกว่า ปากกาคอแร้ง)

ใครยังลังเลว่าจะเริ่มยังไง ในโพสนี้จะแนะนำปากกาคุณภาพดี 3 แบบ ที่สามารถเริ่มต้นฝึกเขียนเองได้ มาเริ่มที่ปากกาที่นิยมกันมากที่สุดเลยดีกว่า

1. Pentel Touch เป็นปากกาพู่กัน (Brush pen) หัวเล็ก ที่ต้องมี เพราะคุณภาพดี ปลอดภัย ไร้กลิ่น คุ้มราคา ตอนนี้มี 24 สีให้เลือกสรร

ในภาพ เป็นเส้นที่แนะนำเวลาฝึกเขียน เริ่มฝึกให้ได้เส้นโค้งขึ้นลงให้เท่ากัน ช่วงแรกๆ ต้องฝึกการคุมน้ำหนักมือให้ได้เส้นหนาบาง "ขึ้น-บาง ลง-หนา" คือคาถาของเรา ท่องไว้เลยนะเวลาเขียน

Pentel Touch เหมาะสำหรับเขียนอักษรขนาดสูงไม่เกิน 1 ซม. จะได้สัดส่วนที่สวยงาม เขียนได้ทั้งแนว classic และ modern

ข้อดีของน้อง Pentel Touch นอกจากจะใช้ฝึกเขียนเส้นหนาบางได้ง่ายแล้ว ยังหาซื้อง่ายอีกด้วย คือมีขายตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ ราคาด้ามละ 55 บาท มีขายเป็นด้ามเดี่ยว หรือเป็นแพ็ค 6 ด้าม และ 12 ด้าม จัด set สี primary และ secondary

2. Tombow Dual Brush หรือ ABT เป็นปากกาพู่กัน (Brush marker) หัวใหญ่ โดยใน 1 ด้าม จะมี 2 หัว ด้านใหญ่เป็นหัวนุ่มแบบพู่กัน (brush tip) และ ด้านเล็กเป็นหัวแข็งแบบปากกาเมจิก (bullet tip) สีเป็น waterbase marker ที่ให้สีสวยมาก เขียนทับให้สีเข้มขึ้นได้ ไม่มีกลิ่น มีตั้ง 96 สี

การฝึกเขียน สามารถฝึกการลงน้ำหนักแบบเดียวกันกับ Pentel touch แต่ Tombow มีขนาดหัวที่ใหญ่กว่า ทำให้การควบคุมเส้นบางทำได้ยากกว่า ซึ่งถ้าเอามาเขียนเท่า Pentel Touch จะได้อักษรที่ดูหนากว่า แนะนำให้เขียนอักษรสูง 1.5 ซม. ขึ้นไปจะได้สัดส่วนที่สวย เหมาะเขียนแนว modern และแบบที่ลูกเล่นเยอะๆ

Tombow Dual Brush ที่อเมริกาจะนิยมไว้เขียน Hand Lettering หมายถึงการประดิษฐ์และตกแต่งอักษรด้วยการใช้มือเขียน ซึ่งเป็นศาตร์ที่ครอบคลุมไปถึงอักษรวิจิตร Calligraphy ด้วย การที่มีหัว bullet มาให้ ทำให้เราเอาไปใช้งานได้ยืดหยุ่นขึ้น และเอามาตกแต่งจะได้เส้นที่คุมง่ายกว่า brush

Tombow Dual Brush ค่อนข้างหาซื้อยากกว่า Pentel touch ราคาด้ามละประมาณ 100-120฿ ถ้าอยากเล่นผสมสีตัวหนังสือสวยๆ แนะนำซื้อเป็น set10 ด้าม (950-1,050฿ ช่วงลดราคาอาจมีถูกกว่านี้) เค้าจะมีจัดเป็น palette สีมีให้เลือกหลายโทน ซึ่งเป็นโทนสีที่เข้ากันในแต่ละ set เวลาใช้ก็ไม่ต้องคิดเรื่องคู่สีมาก เพราะ ที่เค้าจัดมาให้นั้นเข้ากันได้อยู่แล้ว ในแต่ละ set จะมี blender (สีใส) มาด้วย 1 ด้าม เอาไว้ใช้ผสมสี ให้ไล่กันเป็น gradient เนียนๆ แบบตัวอย่างคำว่า "Tom"bow จะเห็นการไล่สีเขียวไปส้ม tip คือถ้าจะไล่สีให้สวยขึ้น ควรใช้กระดาษสีน้ำมาระบาย

อีกเทคนิคผสมสีที่ได้ effect สวยๆ แบบคำว่า "Brush" ในภาพบน คือใช้หัวปากกา 2 สีมาป้ายกันก่อน แล้วค่อยเขียน กลายเป็นอักษรสีเหลือบๆ แบบที่เรียกว่า Ombre Lettering เทคนิคนี้ใช้ได้กับ Pentel Touch เช่นกัน

3. Dip Pen หรือ ปากกาจุ่มหมึก เป็นปากกาที่ใช้เขียน Calligraphy ให้มีความวิจิตรแบบคลาสสิก แต่ก็ใช้เขียนอักษรแบบ Modern ได้เช่นกัน

ปากกาจุ่มหมึก ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ หัวปากกาโลหะ (nib) หมึกสำหรับจุ่ม และด้ามจับ ซึ่งมีเป็นแบบตรง (straight holder) หรือแบบเอียง (oblique holder) แบบในภาพ ซึ่งจะใช้เขียนอักษรตัวเอียงได้ง่ายกว่า

ปากกาจุ่มหมึก ค่อนข้างใช้ยากกว่าทั้ง 2 แบบก่อนหน้า เพราะต้องมีวิธีจับองศาให้ถูกต้อง และต้องมีหมึกไว้คอยจุ่ม นอกจากต้องฝึกลงน้ำหนักลงไปที่บนหัว nib แล้ว ยังต้องรู้จักการคุมหมึกด้วย

วิธีการฝึกเส้นก็เช่นกันใช้น้ำหนักการกดข้อมือและนิ้วชี้ช่วยเวลาลงเส้นหนา แต่ต้องให้หัวปากกาเอียงไปตามองศาของเส้นหนาที่เรากดลงด้วย

การฝึก Dip pen จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการเขียน จะทำให้ฝึกเป็นเร็วขึ้น แอบบอกว่าคนที่เคยซื้ออุปกรณ์ตามร้านขายของที่ระลึก จะพบว่าเอามาเขียนจริงๆ ไม่ค่อยได้ ซึ่งเป็นปรกติ เพราะเค้าทำมาแค่ให้เป็นของที่ระลึก ^^"

การใช้หัวปากกาและหมึกที่ดี จะทำให้เขียนง่ายขึ้น แนะนำหัว G-Pen เป็นหัวปากกาเขียนการ์ตูนจากญี่ปุ่น ที่ถูก ดี และทน สำหรับเริ่มต้น หลังจากนั้นจะลองหัวปากกาแบบอื่นๆ มีที่นิยมใช้กันหลายสิบแบบ ส่วนหมึก เรามี Walnut ink ที่เราคิดสูตรผสมเอาไว้สำหรับใช้กับปากกาจุ่มหมึกโดยเฉพาะ ทำจากเกล็ดไม้ Walnut ธรรมชาติ

ส่วนด้ามปากกาแบบเอียง Oblique holder จะมีดีไซน์ให้เลือก อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และก็จะมีปัจจัยเรื่องขนาดด้าม และ น้ำหนักซึ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มฝึก อาจจะเริ่มใช้อุปกรณ์แบบ basic ก่อน

ข้อจำกัดในเมืองไทย ยังหาซื้ออุปกรณ์ dip pen ดีๆได้ยาก จำเป็นต้องซื้อจากร้านที่เน้นอุปกรณ์ Calligraphy โดยเฉพาะ

จากประสบการณ์ของเรา เจอเพื่อนๆ ที่เอาปากกาคอแร้งที่ซื้อตามร้านขายของที่ระลึกเวลาไปเที่ยวที่ต่างๆ (พวกนั้นส่วนใหญ่ Made in China) เอามาฝึกเขียนไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะหัวปากกาและหมึกใน set จะไม่ได้ทำมาเป็นคุณภาพที่ใช้เขียนเส้นมีน้ำหนักสวยๆ ได้จริง ถ้าเรารู้สึกว่าฝึกเขียนแล้วไม่สำเร็จซะที อาจจะต้องลองพิจารณาเรื่องอุปกรณ์ด้วยนะ สำหรับ dip pen _______________________ ดูรีวิวแบบเป็น vdo อย่างละเอียด ด้านล่างเลยค่ะ อย่าลืมเข้าไปกด subscribe เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ จะเอาสิ่งน่าสนใจมาแชร์ให้ดูบ่อยๆ