top of page

Brush Pen Review Ep.1


++ มหากาพย์ Brush Pen Review ++ อยากเริ่มต้นเขียน Brush Calligraphy จะเลือกปากกายังไงดี?? เพราะปากกาพู่กัน หรือ Brush Pen ในท้องตลาดมีเยอะแยะ วันนี้เราเลยหยิบ Brush Pen รอบตัวมา review ให้ดูกัน หยิบมาได้ 14 แท่งถ้วน (บทความนี้เขียนปี 2016 เดี๋ยวเรามี Ep.2 แน่นอลลล)


- Brush Pen คืออะไร?? มันก็คือปากกาที่รวมตัวกับพู่กันนั่นเอง

- ดียังไง??? มันคือนวัตกรรมของพู่กันที่ทำให้เราเอาไปใช้เขียนได้ง่ายขึ้น โดยเค้าจะทำให้เขียนเส้นได้ทั้งหนาและบางในปากกาแท่งเดียวกันไง พกไปไหนก็สะดวก แท่งเดียวจบ

- ใช้เขียนอะไร??? ก็เขียน Calligraphy ไง จริงๆ หลายแบบที่เราเอามาลองเนี่ย เค้าผลิตมาให้ใช้กับงาน Art ส่วนใหญ่เอาไว้วาดรูป หัวเล็กก็ใช้ตัดเส้น ถ้าแบบหัวโตๆ จะใช้ระบายสีด้วย ใช้แทนสีน้ำยังได้เลย แต่มันเอามาเขียนอักษรสวยๆ ได้ด้วย

- เราใช้กระดาษ A4 ธรรมดา หนา 80g มาเขียน Review ให้ดูกัน - อะ มาดูกันว่าแต่ละแบบเป็นไง


1-2. GENVANA กะ BAOKE ปากกาพู่กันสัญชาติจีนสองยี่ห้อนี้คล้ายกันมาก เรียกว่าเป็นญาติกันก็ได้ หัวปากกาเป็นแบบ felt tip แปลว่าปลายหัวเป็นผ้าที่อัดกัน ซึ่งคนไทยเราเรียกกันว่าปากกาเมจิกนั่นเอง แต่พอเป็นหัว brush ลักษณะสำคัญคือจะมีปลายแหลม และนุ่ม สองแท่งนี้ใช้เขียนคุมเส้นไมยากเลย เพราะหัวสั้นและเล็กดี ปลายไม่นิ่มเกินไป เขียนเส้นหนาบางได้ตามใจนึก คุณภาพโอเค BAOKE เขียนลื่นกว่านิดหน่อย ใช้หัดเขียน calligraphy แบบตัวเล็กได้งดงาม (ตัวอักษรสูงประมาณ 1ซม.) ข้อเสียคือไม่มีขายทั่วไปในเมืองไทย เราซื้อ online มาลอง...ราคาประมาณแท่งละ 30-40 บาท


​3-4. Zebra ปากกาตราม้าลายจากญี่ปุ่น สำหรับ brush pen ของเค้าจะมีขนาดหัวเป็น felt tip 3 ขนาด คือ extra fine/ fine/ medium เราก็เลือกซื้อตามขนาดตัวอักษรที่จะเขียน แบบ extra fine คือขนาดหัวเท่า GENVANA กะ BAOKE และ Pentel Touch ที่กำลังจะพูดถึงต่อไป ในภาพข้างบนคือหัว extra fine กะ fine ...Zebra Brush Pen เป็นอะไรที่นิยมในหมู่ Calligrapher ฝรั่งหลายคน เพราะให้เส้นที่คม หัวเด้ง นุ่มพอประมาณ เขียนได้พริ้วทีเดียว ที่เมืองไทยยังไม่เคยเห็นเลย สั่งซื้อที่เมกา ราคาแท่งละ $2.50 us ตอนนั้นเราซื้อมาเพราะเมืองไทยยังไม่มี Pentel Touch ขายเลย แต่ตอนนี้โชคดีมีขายแล้ว ดูอันต่อไป **Update 2021 Zebra Brush pen ตอนนี้มีขาย Online ที่นี่


5. Pentel touch อันนี้ก็ felt tip เช่นกัน เป็น brush pen ที่เราเอามาให้เริ่มเรียนกันใน Calligraphy Workshop เพราะหัวแน่น เด้ง เฟิร์ม เราว่าคุมเส้นง่ายกว่า Zebra ด้วยแล่ะ รุ่นนี้หาง่ายในเมืองไทย มีหลายสีให้เลือก สีสวยสด และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย แท่งละ 53 บาท (ฝรั่งขาย $2.50 ที่ญี่ปุ่นขาย 150เยน) แท่งนี้หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนชั้นนำทั่วไปได้เลย แนะนำๆ Mimin เอาไว้ให้ฝึกในคลาส Modern Brush Calligraphy/ Draw your dream garden ++ซื้อปากกา Pentel Touch ราคาพิเศษ ที่ร้าน Mum! i want กดที่นี่

6. Tombow fudenosuke twin ปากกาจากญี่ปุ่น ได้มาตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น คำว่า fude ก็แปลว่าพู่กัน เจ้าฟูเดะโนะซึเกะแท่งนี้คือ ดีงามมาก เส้นสวย หัวเด้ง เฟิร์ม คุมน้ำหนักเส้นง่าย ญี่ปุ่นทำมาไว้ใช้เขียนตัวอักษรคันจิโดยเฉพาะ บนแท่งเขียนว่า calligraphy pen เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมมันคือ ดีย์ fudenosuke มีทั้งรุ่น hard และ soft แบบ hard ก็จะคุมเส้นได้ง่ายกว่า แต่เขียนเส้นได้ไม่หนามาก และพริ้วน้อยกว่า ส่วนของเราใช้แบบ soft จนหมึกเกือบแห้งแล้ว ที่เขียนรีวิวในรูปสีเลยจาง จริงๆ คือเนื้อหมึกชุ่มเทียบเท่ากับ Pentel touch เลย Fudenosuke มีข้อดีต่างกับ Pentel touch ที่ว่าหมึกกันน้ำ เอาไว้เขียนจ่าหน้าซองจม. ได้ ไม่เลอะเลือนแน่ะๆ แต่ข้อเสียคือมีแค่ 2 สีเอง ดำ กะเทา รุ่น twin นี้มาเป็นสีดำกะเทา ปกติจะเป็นรุ่นหัวเดียว เห็นมีขายในเมืองไทยประมาณ 100 บาทนิดๆ **Update 2020 ตอนนี้ทาง Tombow Thailand มีปากกา fudenosuke หัว hard tip เป็นแพ็ค 10 สีมาวางขายแล้ว แพ็คละประมาณ 650 บาท แต่เห็นมีส่วนลดมาเรื่อยๆ ลองเช็คดูนะ

7. Tombow ABT dual brush แท่งนี้จะต่างจาก 6 แท่งบนเพราะหัวปากกาเป็นพู่กันสังเคราะห์ทำจากใยไนลอน หัวโตและยาวกว่า 6 แท่งแรก เป็นที่นิยมในหมู่ calligrapher ฝรั่ง เราเรียกว่า Big Brush ละกัน เพราะเอาไว้สำหรับเขียนอักษรตัวใหญ่ ขนาดสูง 2 ซม. ขึ้นไป การเขียนตัวใหญ่ด้วยพู่กันโตๆ จะยากกว่าเขียนตัวเล็ก ต้องฝึกกันพอประมาณ Tombow dual brush ถือเป็น Big Brush ที่ใช้ไม่ยากมากถ้าฝึกใช้ให้ถูกวิธี เพราะ คุณภาพดี (ตามราคา) แม้ว่าหัวปากกาแบบนี้ถ้าใช้ไปสักระยะปลายพู่กันจะเริ่มแตก แต่อยู่ที่แรงกดด้วย ยิ่งกดแรงยิ่งปลายแตกง่าย แต่ Tombow ก็ทนทานพอประมาณ แต่คือว่ามันจะเหมือนพู่กันจริงขึ้นมาอีกนิด แท่งนี้เป็น dual brush มี 2 หัว อีกหัวจะเป็นเมจิกเส้นเล็กธรรมดา ประมาณเอาไว้ตัดเส้น outline สีหมึกสวย เป็น Acid free เลยไม่ค่อยซึมกระดาษ เขียนกระดาษบางโอเค ความดีงามของ Tombow นี้ นอกจากใช้ดีแล้ว คือมี 95 สี + blender เป็นสีแบบ water-based ดังนั้นเอาสีมาผสมกันได้คล้ายๆ สีน้ำ ข้อเสียคือบ้านเราหาซื้อยากมาก เพราะไม่มีการนำเข้าอย่างเป็นทางการ แนำนำให้ซื้อที่อเมริกา แบบเป็น set จะได้ถูกกว่าซื้อที่ญี่ปุ่นอีก ราคาประมาณแท่งละ 100 บาทเศษ ในไทยเห็นมีหิ้วมาขาย 120 บาท มีขายแบบเป็น set 10 แท่ง จัดมาเป็น palette สีสวยงามหลายโทนสี แล้วแต่ความชอบ กับแบบ 96แท่ง มาแบบครบทุกสี มีที่ตั้งปากกาแถมมาให้ด้วย ใครสนใจลองหาดูนะ **Update 2018 ตอนนี้ บ. Tombow Thailand ได้นำเข้าปากกา Tombow Dual Brush มาขายในเมืองไทยแล้ว ดีใจสุดๆ สามารถซื้อ online ได้ที่นี่เลย

8. ICO brush pen แท่งนี้หัวเล็กยาวแหลม ขนาดหัวพู่กันอยู่ระหว่าง Pentel touch และ Tombow dual brush ความที่หัวมันยาวนุ่มนิ่ม เลยอ่อนไหวไปตามน้ำหนักมือ เส้นบางทำได้เฉียบ เส้นหน้าได้หนักแน่น คุมเส้นยากพอประมาณ ความดีของปากกาสัญชาติฮังการียี่ห้อนี้คือ ราคาถูก แท่งละ 15 บาทเอง มีหลายสี ขายแยกและขายเป็น setหมึกสีสด ซึมกระดาษพอประมาณ หาซื้อได้ง่ายในเมืองไทย ดี ประหยัด คุ้ม เขียนแล้วได้อารมณ์เหมือนพู่กันจริงเลยอ่ะ ดังนั้นใช้ฝึกเขียนได้ไม่ค่อยเสียดายสตางค์ ข้อเสียคือสำหรับคนเริ่มฝึก มันจะใช้ยากเพราะหัวค่อนข้างอ่อนใช้แล้วอาจถอดใจ ส่วนใครที่มือนิ่งแล้วลองดูเลยไม่เสียหายอะไร

9. Artline BLOX แท่งเป็นเลโก้ ต่อกันได้ (แต่ไม่รู้จะต่อทำไม เด็กๆ น่าจะชอบ) แท่งแบบนี้เวลาซื้อขอให้สังเกตุสัญลักษณ์หัวปากกาบนฉลากสีขาวด้วย เพราะเค้าทำหัวปากกามา 4 แบบ หยิบผิดจะไม่ได้แบบหัว brush มานะ Artline BLOX นี้คือหัวมันจะโต และค่อนข้างเป็นปากกาหัวแข็งเลย ก็เลยจะเขียนไม่ยาก ใช้เขียนอักษรตัวใหญ่ เส้นที่ได้จะโค้งได้ตามมือเราไป แต่ไม่ค่อยพริ้ว เอาไว้เขียนแบบเท่ๆ ได้ เจ้า BLOX แท่งใหญ่แล้วมันเป็นปุ่มๆ ดูจับยาก แต่พอลองดูจริงๆ ก็จับไม่ยากแฮะ ราคาย่อมเยา แท่งละ 27 บาท เนื้อหมึกสดใสซึมมากหน่อย

10. ZIG Brushables ปากกาสองหัวจากค่าย Kuretake ของญี่ปุ่น หัวคล้ายๆ Tombow dual brush เลย ความต่าง คือหัวเด้งกว่า รับแรงกดผ่อนจากน้ำหนักมือได้ดี ปลายหัวแข็งกว่า Tombow นิดหน่อย ของใหม่นี่เขียนเส้นเล็กได้ดีที่สุดเลย เราชอบมาก เลิฟสุดๆ คนที่เริ่มหัดเขียนหัวใหญ่จะรู้สึกว่ามันเขียนยากมาก ต้องใจเย็นๆ นะ ZIG Brushables 1แท่งมี 2 หัว เป็นหัว brush เหมือนกันเป๊ะ แต่มาคนละสีเป็นโทนเข้มอ่อน เอาไว้เขียนเงาล้อกันได้ ราคาประมาณ 130 บาท ราคาต้องลงทุนแต่ คุ้มมาก 1 แท่งมี 2 หัว สวยทุกสีเลย เราชอบสุด <3 Mimin เอาไว้ฝึกเขียนในคลาส Big Brush Lettering ++ซื้อปากกา Zig Brushables ราคาพิเศษ กดที่นี่

11.Sakura KOI ซากุระโคอิ หัวคล้ายๆ กับ Tombow dual brush กะ ZIG Brushables คือเป็นพู่กันสังเคราะห์หัวใหญ่ และนุ่ม ปากกา 3 แท่งนี้ คือมีหัวคล้ายกันมาก เขียนเส้นหนาบางเห็นความแตกต่างชัดเจนได้ เขียนแล้วให้ความรู้สึกคล้ายคลึง แต่คุณภาพก็พูดได้ว่าตามราคาเลย ความต่างจะชัดเจนตอนที่ได้ใช้ไปเรื่อยๆ แต่ละคนจะรู้สึกได้เองว่าถนัดแท่งไหนมากกว่ากัน KOI เป็นปากกาพู่กัน water-based หมึกสีสดพอประมาณ หัวนุ่ม และยังพอมีความเด้ง เขียนไม่ยากเท่าไร แต่หลายคนก็บอกว่ายากกว่า Brushables พอตัว ข้อดีคือหมึกไม่ซึมกระดาษ เป็น water based เอามาใช้เล่นผสมสีได้ด้วย อันนี้หาซื้อง่าย มีหลายสีมาก ราคาแท่งละประมาณ 45-50 บาท หาไม่ยาก มีขายตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป

12. COPIC Sketch เป็นปากกา Marker ใช้ทำงานพวกระบายสี งานวาด แบบที่มืออาชีพเอาไว้เขียน perspective หรือการ์ตูน เนื้อหมึกเข้ม และซึมมาก เขียนบนกระดาษ A4 ธรรมดาไม่รอดนะ ถ้าไม่มีอะไรรองนี่ซึมผ่านลงโต๊ะเรย แท่งนี้ขนาดหัว brush และวัสดุใกล้เคียงกับ KOI เขียนยากกว่าตรงที่หัวนิ่ม คุมเส้นบางยากกว่า และหมึกซึมมาก ใครเขียนเส้นช้าจะเลอะเทอะได้ เหมาะกับกระดาษหนา 120 g ขึ้นไป แท่งนี้มี 2 หัว หัวอีกด้านเป็นหัวตัด ข้อเสียคือ กลิ่นเคมีแรงมาก และราคาแพง จริงๆ คือต้องบอกว่า เก็บไว้ระบายสีบนกระดาษหนาๆ ดีกว่า


​13. Pentel brush medium tip (รุ่น FL2L) ปากการุ่นนี้ คือเป็นพู่กันจริงๆ เพราะมีหัวเป็นขนๆแบบพู่กัน มีความนุ่มมาก อ่อนไหวตามน้ำหนักมือ ทำให้คุมเส้นยาก เหมาะเอาไว้เขียนอักษรภาษาจีน ญี่ปุ่น จะได้อารมณ์มาก อันนี้หมึกเป็นแบบ Refil ลงไปในด้ามได้ ก่อนเขียนเราต้องบีบหมึกให้ไหลจากด้ามปากกา ความเข้มข้นของเนื้อสีก็จะอยู่ที่เราบีบหมึกนี้ด้วย ขนพู่กันดีมาก ปลายแหลมเฟี้ยว เขียนเส้นบางก็ได้ เขียนเส้นหนาก็ปังมาก ได้ขนาดเส้นต่างกันเยอะ แต่เส้นที่ได้ขอบอาจจะไม่คมเพราะมันมันมีความเป็นพู่กันจริงๆ อยู่เยอะ ส่วนที่ Refil ถ้าหมึกหมดแล้วเราจะเติมหมึกอะไรลงไปเองก็ได้ เติมน้ำทำเป็นพู่กัน tank ก็ได้ แท่งนี้ราคาค่อนข้างสูง หาได้ตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ จะราคาตรงๆ ไม่ได้ละประมาณ ร้อยกว่าบาทปลายๆ


​14. NOODLER’S brush pen สุดท้ายเป็นปากกาจากยี่ห้อหมึกในตำนานของ USA ยี่ห้อนี้ออกแนวอินดี้ แต่เป็นที่กล่าวถึงเรื่องคุณภาพความทนทาน และดำปี๋ของหมึก พอคนรู้จักชื่อแล้วเค้าก็มาทำปากกาซะเลย ส่วนใหญ่เป็นปากกาหมึกซึมที่เราจะไม่พูดถึง เราให้ดูแท่งนี้!! ภายนอกลักษณะเรียบหรูเหมือนหัวจะเป็นคอแร้ง แต่จริงๆ หัวเป็นพู่กัน ขนาดเล็ก และยาว ก็เลยทำให้เขียนยากพอๆ กับ Pentel brush แต่แท่งนี้หัวจะนิ่ม เล็กกว่า เขียนเส้นบางเฉียบได้ดี เวลาเขียนเส้นหนาจะเขียนยากและหมึกขอบเส้นจะแตกง่าย มีความเป็นพู่กันจริงๆ เช่นกัน เติมหมึกได้ด้วยโดยการสูบหมึกเข้าทางหัวปากกา ความต่างคือไม่ต้องบีบหมึกให้ออกมาแบบ Pentel brush เพราะหมึกจะซึมออกมาเอง เวลาเขียนก็จะง่ายขึ้นอีกนิดเพราะ เล็กกว่าและก็ไม่ต้องไปจดจ่อกับการคุมเนื้อหมึกให้ออกมานั่นเอง อันนี้ต้องสั่งซื้อกันเอาเอง เพราะไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไปในเมืองไทย ปากกาหน้าตาคล้ายๆ แท่งนี้ ของ Pentel กะ Keretake ก็มีหาซื้อได้ในเมืองไทย หายากหน่อย ต้องส่องๆ ดูตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ คุณภาพก็ใกล้เคียงกันนะ จะบอกว่าเรามีหมดทุกแบบเลย (ตามภาษาคนชอบเสียเงินเล่นเครื่องเขียน) แต่ไม่ค่อยได้เอามาใช้ เพราะใช้อันอื่นมากกว่า ปากกาล้นบ้านแร้วววว งืออออ ​ใครที่อยาก update ว่าตอนนี้มีอุปกรณ์ Calligraphy อะไรใหม่ๆ บ้าง ลองเข้าไปดูที่ร้าน mum! i want ใน shopee


​สุดท้ายอยากบอกว่า มีปากกาเยอะๆ แล้วก็เอาออกมาเขียนกันนะ หรือถ้าอยากเขียนเป็นเร็วๆ เรามี Calligraphy Workshop หลากหลาย สอนโดยผู้มีประสบการณ์กว่า 5 ปี เอาเทคนิคมาแชร์ไม่อั้น วันเดียวก็เขียนได้ ฝากร้านหน่อยจ้าที่ https://www.facebook.com/miminstudio กดดูเรื่องราวอื่นๆ ใน blog ของเราที่นี่ https://www.miminstudio.com/blog


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page